กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เป็นกฎหมายมหาชน มีบทบัญญัติถึงขั้นจำคุก 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งหากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนใดกระทำความผิด กฎหมายมิได้กำหนดให้นำนิติบุคคลมาลงโทษ แต่ให้นำตัวบุคคลที่สั่งการหรือกระทำผิดกฎหมายมาลงโทษ รวมทั้งผู้ที่ไม่สั่งการ หรือไม่กระทำการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่บุคคลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล เจ้าหน้าที่ธุรการ เจ้าหน้าที่บัญชีและเจ้าหน้าที่การเงิน ที่จะต้องเข้าใจข้อกำหนดของกฎหมายฉบับนี้ เพราะบุคคลใดก็ตามที่กระทำความผิดจะอ้างเหตุเพราะไม่รู้กฎหมาย มาบรรเทาโทษได้
โดยวิทยากรที่ให้การอบรมเป็นตำรวจที่มีประสบการณ์ด้านสืบสวนสอบสวนอย่างมาก ที่จะมาให้ความรู้กับท่าน ที่ไม่มีที่ไหนกล้าเปิดเผยให้ท่านทราบ !
ผลที่ได้จากการผ่านการอบรม
- เข้าใจความหมายของคำต่างๆ ที่ใช้ในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เช่น ค่าจ้าง วันทำงาน วันหยุด วันลา การทำงานล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด ค่าชดเชย
- ทราบความรับผิดชอบของนายจ้างที่มีต่อลูกจ้างตามที่กฎหมายกำหนด
- ทราบสิทธิของลูกจ้างที่พึ่งมี ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งกฎหมายแรงงานและกฎหมายอื่นๆ
- เข้าใจข้อกำหนดต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด เกี่ยวกับการจ้างและเลิกจ้าง
- ทราบรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแรงงาน เช่น เวลาการทำงาน การทำงานล่วงเวลา วันหยุดตามประเพณี วันหยุดตามกฎหมายแรงงาน การลาป่วย ลากิจ ลาคลอด ลารับราชการ การจัดวันหยุดพักผ่อน อัตราการจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา การจ่ายเงินชดเชยเมื่อเลิกจ้าง เพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถกระทำการใดก็ตาม ที่ไม่ผิดต่อกฎหมายคุ้มครอง แรงงาน
ข้อบังคับเบื้องต้นก่อนการเรียน
ไม่มี แต่หากมีประสบการณ์ด้านทำงานสนามจริงมาแล้ว จะทำให้ท่านเข้าใจและซาบซึ่งกับหลักสูตรนี้มากยิ่งขึ้น
ระยะเวลา
2 วัน
เมื่อจบการอบรมนี้แล้ว สามารถที่จะเข้าใจได้ดังนี้
สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการดำเนินกิจการ โดยไม่ผิดต่อกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพราะกฎหมายกำหนดให้นำตัวบุคคลมาลงโทษไม่ใช่นำนิติบุคคลมาลงโทษ และเป็นโทษที่หนัก ไม่สามารถอ้างเหตุไม่รู้กฎหมาย บรรเทาโทษได้
เนื้อหาหลักสูตร
- กรณีที่บริษัทใดกระทำผิด ให้ลงโทษบุคคลที่สั่งการ หรือกระทำความผิด ถึงขั้นจำคุก หรือถูกปรับ
- ทำไมหัวหน้างานจึงมีสถานภาพเป็นนายจ้างด้วย
- กิจการที่ใช้วิธีเหมาค่าแรง ก็เป็นนายจ้างด้วย
- ความหมายของคำที่ใช้ในกฎหมายนี้เป็นอย่างไร เช่น ค่าจ้าง วันทำงาน วันหยุด วันลา การทำงานล่วงเวลา ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด ค่าชดเชย เป็นต้น
- แม้นายจ้างได้ประโยชน์ตามกฎหมายนี้ ก็ห้ามตัดสิทธิลูกจ้างตามกฎหมายอื่น
- ถ้านายจ้างไม่จ่ายเงินประกัน ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ฯลฯ แม้มีเหตุผลต้องเสีย ดอกเบี้ย 15% ต่อปี หากจงใจไม่จ่าย เสียเงินเพิ่ม 15% ทุก 7 วัน
- กฎหมายห้ามเรียกเก็บเงินประกันกรณีใด และกรณีใดเรียกเก็บเงินประกันได้ และประกาศกระทรวงเรื่องดังกล่าวมีอย่างไร
- เปลี่ยนตัวนายจ้างได้ แต่เปลี่ยนสิทธิให้ลูกจ้างน้อยลงไม่ได้
- เลิกจ้างลูกจ้างทดลองงาน จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้า และไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้ามีกรณีใด และแก้ปัญหาอย่างไร
- เงื่อนไขการบอกกล่าวล่วงหน้ามีอย่างไร
- ถ้าไม่ระบุเหตุผลในการเลิกจ้าง จะยกเหตุไม่จ่ายค่าจ้างไม่ได้
- ชั่วโมงทำงานปกติของงานธรรมดา และงานอันตราย แตกต่างกันอย่างไร
- ห้ามมีให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา เว้นแต่ลูกจ้างยินยอม
- ห้ามมิให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด ยกเว้นกรณีใด
- นายจ้างมีสิทธิสั่งให้ลูกจ้าง 8 ประเภทมาทำงานในวันหยุดได้ คืองานใดบ้าง
- ก่อนทำงานล่วงเวลา จะต้องจัดให้ลูกจ้างพักก่อน
- วันหยุดตามประเพณี 3 วัน ได้แก่วันใดบ้าง
- ห้ามทำงานล่วงเวลา ทำงานในวันหยุด ในงานอันตราย ห้ามทุกกรณีหรือไม่
- ลูกจ้างลาป่วยได้ตามที่ป่วยจริง แต่ถ้าลามากนายจ้างสามารถเลิกจ้างได้
- ให้ลูกจ้างลาทำหมัน ต้องจ่ายค่าจ้างหรือไม่
- ลากิจ สุดแต่ที่บังคับ หรือนายจ้างกำหนด ไม่ให้ก็ผิดกฎหมายใช่ไหม
- ลารับราชการ ได้ค่าจ้างตามวันในหมายเรียกหรือตามวันที่ขอลา
- ลาเพื่อคลอดบุตร มิใช่ลาก่อนคลอด / หลังคลอด ใช่หรือไม่
- ลาเพื่อฝึกอบรมฯ จ่ายค่าจ้างหรือไม่จ่ายค่าจ้างก็ได้ใช่ไหม
- ห้ามลูกจ้างมีครรภ์ทำงานบางเวลา หรือติดไปกับยานพาหนะ ฝ่าฝืนหัวหน้างานถูกจำคุก 6 เดือน ปรับ 100,000 บาท
- วันหยุดตามกฎหมายแรงงานมี 3 วัน วันใดบ้าง
- ไม่ได้จัดให้ลูกจ้างหยุดพักผ่อน จะต้องจ่ายค่าจ้าง ค่าทำงานในวันหยุดให้หรือไม่